วันพุธที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

[MIE] เที่ยวสวนสนุก เครื่องเล่นสุดหวาดเสียว

จังหวัด Mie นี่เคยไปเฉพาะสวนสนุก Nashima Spaland ที่คนญี่ปุ่นในหอจัดไป
จาก Nagoya นั่งรถบัสไปไม่ไกลเท่าไร สวนนี้ใหญ่มาก มีส่วนที่เป็นสวนน้ำด้วย
แต่เราไปแค่ส่วนที่เป็นสวนสนุก มีเครื่องเล่นหวาดเสียวเยอะ
และก็มีส่วนที่เป็นร้านอาหารและร้านขายของเหมือนกัน แต่ครั้งนี้เน้นเล่นเครื่องเล่น
http://www.nagashima-onsen.co.jp/spaland/index.html/

ครั้งนี้ก็เล่นไปหลายเครื่องทั้งรถไฟเหาะ Free Fall ไวกิ้ง ไปจนถึงชิงช้าสวรรค์
มีช่วงที่ลงจากเครื่องเล่นแล้วมึนมากๆ เกือบอ๊วก ต้องนั่งพักสักครู่เลยทีเดียว
จะเรียกได้ว่ากลัวหรือเปล่านะ จริงๆ ไม่ได้กลัว เป็นโรคกลัวไปก่อน พอเล่นจริงก็สนุก
โดยเฉพาะเวลาเล่นกับเพื่อนที่จับมือแล้วกรี๊ดไปด้วยกัน แต่ถ้าไม่ได้เล่นก็ไม่นึกอยากเล่น
มาแนะนำเครื่องเล่นบางอย่างดีกว่านะ

Steel Dragon 2000
ตอนแรกที่สร้างเครื่องเล่นนี้มีส่วนที่สูงมากสุด ความเร็วสูงสุด ระยะที่ตกห่างสุด
แต่ตอนนี้โดนทำลายสถิติไปแล้ว เหลือแค่ว่าเป็นเครื่องเล่นที่มีความยาวมากที่สุด
ตรงที่ขึ้นไปถึงจุดสูงที่จะปล่อยลงมายาวมาก และน่ากลัวมาก แต่เล่นจริงๆ กลับไม่กลับ
เวลาที่ตกก็ไม่ได้เสียวขนาดนั้น สรุปว่าสนุกจนบางคนต้องขอไปต่อคิวเล่นอีกรอบ
มีถ่ายรูปตอนตกด้วย แต่ละคนทำหน้าแบบกรี๊ดได้ใจมาก




















White Cyclone
วิกิพีเดียบอกว่าเป็นเครื่องเล่นไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
เป็นเครื่องแรกที่เล่นในทริปนี้ ตอนแรกก็กลัวมากตามประสา
แต่สรุปว่าสนุกมาก รู้สึกว่าเครื่องนี้น่ากลัวกว่า Steel Dragon 2000 อีกนะ
รู้สึกมันส่ายแรง แต่ว่าก็เล่นไปกรี๊ดไป จับมือกับเพื่อนไป
















แนะนำแค่สองเครื่องพอ จังหวัดนี้เคยไปแต่สวนสนุก แต่ก็ยังมีที่อื่นอีก
เช่นศาลเจ้าชื่อดังอิเสะ คราวหน้าต้องไปให้ได้เลย

วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

[SAITAMA] กินสตอร์เบอรี่ไม่อั้น และเที่ยวเมืองเก่า

ทริปสั้นๆ ไปเช้าเย็นกลับตอนเดือนก.พ.57 เช่ารถขับกันไป จำได้ว่าจองรถก่อนไปแค่วันเดียวเอง
ที่จังหวัด Saitama เคยไปมหาลัยเพื่อนตอนที่มาแลกเปลี่ยน จำอะไรไม่ค่อยได้มาก
แล้วก็เคยไปสถานี Omiya และเคยไปทัศนศึกษาที่โรงเรียนชื่อดังในจังหวัด
นอกจากนี้ก็เคยไปตลาดขายของเก่า (Flee Market) ในสนามอีกด้วย

Musashinoen Namiki
http://www.musashinoen-namiki.com/?cmd=read&page=berry
เคยไปกินสตอร์เบอรี่แถว Tsukuba หลายครั้ง ครั้งนี้เลยหาสวนใหม่ สวนนี้ก็ดีนะ
ราคา 1,500 เยน 45 นาที และจ่ายค่านมข้นหวานกับช็อคโกแลตไปอีก 100 เยน
วันนั้นมีเด็กตัวเล็กๆ มาน่ารักมาก เลยขอถ่ายรูปด้วย


Kawagoe
http://www.kawagoesansaku.com/
เป็นถนนที่มีบ้านเรือนแบบไม้อย่างญี่ปุ่นเก่าๆ แบบสมัยเอโดะ เรียกว่า Koedo
รู้จักที่นี่ตั้งแต่ตอนดูรายการ WGM ยงฮวา CN Blue และซอฮยอน SNSD ที่มาเดทที่นี่
ร้านอาหารหลายร้านก็ขายขนมญี่ปุ่นเช่นดังโกะ มีขนมที่ขายให้เดินกินเช่นขนมมัน
มีตรอกที่ขายขนม ก็มีขนมโบราณเช่นขนมแท่งสีดำๆ เดินไปซักพักก็มีวัด
แล้วถ้าเดินไปอีกนิดหน่อยก็จะมีส่วนที่คล้ายๆ วัง เข้าไปเป็นนิทรรศการ
สรุปว่าเมืองนี้ก็เดินติดต่อไปกันได้หมด แม้ส่วนที่เป็นวังจะหายากและเดินไกลหน่อย






















ทริปนี้สั้นๆ พอเสร็จจากเมืองเก่าก็ไปแวะที่ Outlet เพื่อกินอาหารไทย
ชอบทริปนี้ รู้สึกดีที่ได้เห็นบ้านเมืองเก่าๆ ที่ยังอนุรักษ์กันไว้ดีอยู่

วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

[NAGASAKI] เที่ยววัด สวนสันติภาพ และวิวกลางคืน

Nagasaki เคยไปสองรอบเหมือนจังหวัดอื่นๆ ใน Kyushu
รอบแรก ธ.ค.51 ขึ้นเครื่องจาก Okinawa ราคา 13,100 เยน
และไปต่อที่ Fukuoka ต่อ นั่งรถบัสราคา 2,500 เยน
รอบที่สอง มี.ค.55 นั่งรถไฟมาจาก Beppu และไปต่อที่ Fukuoka เหมือนกัน
ที่เที่ยวทั้งสองครั้งคล้ายๆ กัน แถมยังพักที่เดียวกันอีกต่างหาก

ที่ Nagasaki ใช้การเดินทางโดยรถรางเป็นหลัก คิดไปคิดมาก็เหมือนที่ Hiroshima
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเป็นเมืองที่โดนระเบิดเหมือนกันรึป่าว บรรยากาศเลยคล้ายๆ กัน
http://www.at-nagasaki.jp/

Meganebashi 
http://www.nagasaki-tabinet.com/guide/95/
หรือสะพานรูปแว่นตา คือเป็นสะพานที่มีโค้งสองโค้ง พอสะท้อนกับน้ำเลยเป็นรูปแว่นตา
แถวๆ นั้นเป็นคลอง สองข้างทางเป็นทางเดิน และมีหินสูงๆ ข้างทาง มีหินที่ทำเป็นรูปหัวใจด้วย
















Suwa Shrine
http://www.osuwasan.jp/
แถวหลังโฮสเทลที่พักมีวัดและศาลเจ้าเยอะแยะเต็มไปหมดเลย
ครั้งแรกไปเดินหลายวัด ครั้งที่สองไปไม่กี่วัดแต่ก็ไปวัดที่ใหญ่ๆ ด้วย
















Nagasaki Shinchi Chinatown
http://www.nagasaki-chinatown.com/
จริงๆ ไม่ค่อยมีความทรงจำเกี่ยวกับที่นี่เท่าไหร่ จำได้ว่าไม่ได้ใหญ่และครึกครื้นมาก
อาหารขึ้นชื่อของ Nagasaki คือจัมปง ก็คล้ายๆ ราเม็ง ไม่แน่ใจว่ากินที่นี่รึป่าว

Nagasaki Peace Park
http://www.nagasaki-tabinet.com/detail/index_130.html
สวนสันติภาพ สวนใหญ่พอสมควร มีรูปปั้นประติมากรรมหลายๆ อย่างที่แสดงถึงสันติภาพ
ที่เด่นที่สุดก็คงเป็นรูปปั้นที่มีคนผายมือไปข้างบนและข้างๆ แล้วก็มีน้ำพุด้วย
ชอบสวนนี้นะ ร่มรื่นดี มีส่วนที่เป็นม้านั่ง แล้วก็ถนนใกล้ๆ สวนก็สวยดีเหมือนกัน




















Nagasaki Atomic Bomb Museum
http://nagasakipeace.jp/japanese/abm.html
เดินไปไม่ไกลจากสวน ก็จะมีพิพิฒภัณฑ์เกี่ยวกับปรมาณู
ก็ได้เห็นความเสียหายจากระเบิด เห็นนาฬิกาที่หยุดเวลาตอนที่ระเบิดลง
ดูแล้วก็เศร้าหดหู่ ญี่ปุ่นคงจะได้รับความเสียหายจากระเบิดมากจริงๆ

Nagasaki Ropeway
http://www.nagasaki-ropeway.jp/
วิวที่ภูเขา Inasa อันนี้ก็ไปทั้งสองครั้ง ครั้งแรกคนที่โฮสเทลขับรถไปส่งถึงเขาเลย
วิวก็สวยมากเลย แต่ไปทั้งสองครั้งอากาศหนาวมาก














AKARI
http://www.nagasaki-hostel.com/index.html
พักโฮสต์เทลนี้ทั้งสองครั้ง เดินไปจากสถานีได้ แต่ว่าก็ไกลพอสมควร
คนที่โฮสต์เทลก็ใจดี ไปครั้งที่สองเหมือนจะจำเราได้ด้วย

Nagasaki ก็ยังถือว่าเที่ยวไม่ครบ มีสวนของเยอรมันที่ยังไม่ได้ไป
เดี๋ยวคงต้องได้ไป Kyushu อีกรอบ

วันอังคารที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

[SHIGA] เที่ยวเมือง Hikone ปราสาทและเมืองเก่า

จังหวัด Shiga ก็เป็นอีกที่ที่งงว่า ไปมาแล้วหรอ จริงๆ ไปมาเดือนก.พ.52
กับทริปของมหาลัย แต่รายละเอียดทริปเลือนรางมาก เดี๋ยวลงรูปและเขียนคร่าวๆแล้วกัน
http://www.biwako-visitors.jp/

Hikone
http://www.hikoneshi.com/jp/
เขียนรวมๆ เลยแล้วกันว่าเที่ยวประสาท บริเวณปราสาทก็ใหญ่ มีหินใหญ่ก็เดินดูรอบๆ
ส่วนตัวปราสาทเองไม่ใหญ่มาก พอออกมาจะมีบริเวณที่เป็นสวน มีอาคารแบบญี่ปุ่นและบึงอยู่
ต่อจากนั้นก็ไปย่านขายของเก่า เป็นถนนที่มีร้านขายของ ได้ถ่ายรูปกับมาสคอทเมืองนี้ด้วย






















อย่างที่บอกว่าข้อมูลน้อยมาก คงต้องไปอีกซักรอบ
แถวนั้นรู้สึกว่ามีทะเลสาปดังด้วย อยากไปนั่งชิวๆ แถวทะเลสาป

[FUKUOKA] ขอพรเรื่องการเรียน และอาหารข้างถนน

เคยไป Fukuoka สองครั้งคือ ธ.ค.51 และ มี.ค.55 ขอเขียนรวมกันเช่นเคย
ครั้งแรก ไปจาก Nagasaki และไปต่อ Beppu
ครั้งที่สอง ไปจาก Nagasaki เช่นกัน แต่ไปต่อที่ Busan เกาหลี
ในตัวเมืองจำเรื่องการเดินทางไม่ค่อยได้ แต่คิดว่าใช้รถบัสค่อนข้างเยอะ
http://yokanavi.com/

Dazaifu
http://www.dazaifu.org/
อยู่ออกจากตัวเมือง Hakata ไปเล็กน้อย พอไปถึงก็จะมีถนนที่มีของขายเยอะ
และมีร้านสตาร์บั๊คที่ตกแต่งแบบใช้ไม้ ก็เป็นสตาร์บั๊คชื่อดังอีกที่นึง แถวนี้ก็มีวัดหลายวัด

Dazaifu Tenmangu
http://www.dazaifu.org/
วัดที่ดังที่สุดคงเป็นวัดนี้ มีชื่อดังเรื่องเกี่ยวกับการศึกษา จุดเด่นก็มีสะพานแดง
ส่วนตัวศาลเจ้าเองก็สีออกแดงๆ เหมือนกัน ได้ซื้อเครื่องรางเกี่ยวกับการศึกษามาด้วย
















Komyozenji
http://www.dazaifu.org/map/tanbo/tourismmap/2.html
เป็นวัดที่อยู่ใกล้ๆ กับ Dazaifu Tenmangu เดินไปได้ แต่ไม่ค่อยมีคนเดินไป
เลยเงียบสงบดี วัดก็เป็นแบบญี่ปุ่นๆ และก็มีสวนแบบญี่ปุ่นด้วย
















Ohori Park
http://www.ohorikouen.jp/
เป็นสวนสาธารณะที่อากาศดี มีสะพานยื่นออกไป และมีนกบินอยู่เยอะ
มีส่วนที่เป็นศาลาสีแดงยื่นไปในน้ำด้วย มีคนมาเดินเล่นเยอะเหมือนกัน
















Canal City Hakata
http://canalcity.co.jp/
เป็นห้างในตัวเมือง Hakata ใหญ่มาก เคยไปกินซูชิจานเวียน
ตรงข้างล่างจะมีโชว์น้ำพุ และทางเดินจากสถานีมาห้างนี้ก็จะเจอกับอาหารรถเข็นหรือ Yatai
เคยเข้าไปกินครั้งนึง ราคาก็ไม่ใช่ถูกนะ แต่เราว่ามันเป็นสเน่ห์อย่างนึงของเมืองนี้





















Tsubame no Mori Hiroba
http://www.jrhakatacity.com/floor/rf.php
อยู่บนดาดฟ้าของสถานีรถไฟ ตอนกลางคืนใช้ดูวิวในเมือง
แต่ตอนกลางวันก็มีกิจกรรมอื่นๆ และมีสวนด้วย ถือว่าใช้พื้นที่ได้ดี
















Tabicolle Backpackers
http://www.tabicolle.com/
พักที่นี่ จำได้ว่าตอนพักนอนฟูกแบบห้องญี่ปุ่น แต่ในเว็บเป็นเตียงแล้ว
ที่นี่ก็ดี ให้เขาซักเสื้อผ้าให้ด้วย แล้วก็มีส่วนทำอาหาร ให้ทำอาหารเช้ากิน

จบการเที่ยว Fukuoka ช่วงนี้เสพเรื่องการท่องเที่ยว Kyushu เยอะ เลยอยากไปอีก
อยากไปตรงสวนที่ติดทะเล น่าจะบรรยากาศดีน่าดูเลย

วันจันทร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

[HYOGO] Kobe หมู่บ้านชาวต่างชาติ และเมืองท่าสุดชิว

เมืองที่ดังที่สุดใน Hyogo คงหนีไม่พ้น Kobe เคยไปมาสองครั้งคือธ.ค.51 และก.ย.55
ครั้งแรกเดินทางโดยเรือมาจาก Beppu และวันต่อไปไป Osaka ต่อ
ครั้งที่สองเดินทางโดยรถไฟมาจาก Osaka คืนนั้นกลับไปขึ้นรถกลับ Tsukuba
ครั้งนี้ขอเขียนรวบเป็นครั้งเดียวเลย เนื่องจากจำเส้นทางไม่ได้ และไปคล้ายๆ กัน
http://www.feel-kobe.jp/

การเดินทางใน Kobe จำได้ว่าครั้งแรกใช้วิธีเดินเอาเป็นส่วนมาก
ส่วนครั้งที่สองเพื่อนพาขึ้นรถบัส City Loop ราคา 650  เยน
http://www.kctp.co.jp/outline/car/cityloop/
















Kobe Beef
เนื้อ Kobe ก็เป็นเนื้อญี่ปุ่นอีกที่นึงที่ดังและราคาแพงมาก
ครั้งแรกเคยไปกินร้านที่ราคาจานละ 8,000 เยน ต้องขอเขาหารกันกินสองคน
ราคานี้ถูกสุดในร้านแล้ว แต่ก็ถือว่าคุ้ม เขาทำให้กินตรงหน้าเลย เนื้อก็นุ่มมาก 
ครั้งที่สองเพื่อนพาไปกินร้านที่อยู่แถวสถานีชื่อ Steakland Kobekan
ที่นี่ไม่แพงมาก ราคาจานละประมาณ 3,000 เยน ถูกและอร่อย
http://steakland.jp/
















Kitano Ijinkan-gai
http://www.kobeijinkan.com/
แถวๆ นี้สวย มีอาคารทางตะวันตกเยอะ เวลาเข้าแต่ละที่ต้องเสียงเงิน
เราเคยเข้าไปที่เดียวคือที่ Uroko no ie หรือบ้านเกล็ดปลา
ข้างในก็ตกแต่งแบบตะวันตกและชั้นบนสุดมีรูปวาดแสดงโชว์ไว้ด้วย
http://kobe-ijinkan.net/publics/index/77/&anchor_link=page77#page77
ตรงทางลงหมู่บ้านต่างชาติมีคาเฟ่หลายร้านตกแต่งสวย รวมทั้งสตาร์บั๊คที่ใช้อาคารเก่าเป็นร้านด้วย





















Nankinmachi
http://www.nankinmachi.or.jp/index.html
China Town ใจกลางเมือง ตอนมาครั้งแรกเราทานอาหารกลางวันที่นี่
แล้วเดินไปที่แถวอ่าว ครั้งที่สองไม่ได้ไป

Kobe Harbor
http://www.city.kobe.lg.jp/life/access/harbor/
มาแถวนี้ก็จะเห็น Kobe Tower ตอนกลางคืนจะเปิดไฟ กับอาคารรูปเรือใบ
และมีห้างให้เดินคือ Harbor Land http://www.harborland.co.jp/

















อยากไป Kobe ช่วงที่ประดับไฟคริสต์มาสเป็นซุ้มอีก เห็นรูปแล้วสวยมาก
แล้วจังหวัด Hyogo ก็มีที่ที่ไม่เคยไปเช่น Himeji เลยอยากไปอีก

วันอาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

[GIFU] หมู่บ้านญี่ปุ่นโบราณ ต่างฤดู ต่างบรรยากาศ

Shirakawago ก็เป็นที่เที่ยวอีกแห่งทีตอนนี้คนไทยแห่กันไปเยอะ
ที่นี่เป็นหมู่บ้านญี่ปุ่นแบบโบราณ บ้านจะสร้างโดยทำหลังคาเป็นรูปพนมมือ
ก็คือเป็นรูปสามเหลี่ยม เพื่อป้องกันไม่ให้หลังคาพังถ้าหิมะตกเยอะ
http://www.shirakawa-go.gr.jp/top/

เรามีโอกาสได้ไปที่นี่สองครั้งคือตอนเดือนเม.ย.ปี 52 และธ.ค. 56
รอบแรกไปตอนฤดูใบไม้ผลิ ส่วนรอบสองไปตอนฤดูหนาว ซึ่งบรรยากาศต่างกันมาก
โพสต์นี้จึงมาเล่าและลงรูปว่าแต่ละฤดูเป็นยังไงบ้าง

รอบแรก เม.ย.52 ฤดูใบไม้ผลิ ไปทริปกับมหาลัย จำได้ว่านั่งรถจาก Nagoya นานมาก
ที่หมู่บ้านก็แห้งแล้งไม่ค่อยมีอะไร มีซากุระเป็นต้นๆ ให้ดู มีส่วนที่เป็นร้านค้าขายของ
มีร้านอาหาร เรากับเพื่อนๆ ก็ไปนั่งกินโซบะ หลังจากนั้นก็เข้าบ้านบางหลัง
บ้านบางหลังข้างในก็เป็นคล้ายๆ พิพิฒภัณฑ์ จำลองสภาพบ้านในสมัยนั้นให้ดู
ก็มีส่วนที่เจาะพื้นเพื่อจุดไฟ แขวนหม้อไว้บนนั้น ไม่ก็เสียบปลาเพื่อเผา
แล้วก็ได้เดินขึ้นเนินไปชมวิวข้างบน จะเห็นหมู่บ้านทั้งหมดในมุมสูง



















รอบสอง ธ.ค.56 ตอนนั้นอยู่ Takayama อยู่แล้ว เลยนั่งรถมาไม่ไกลมาก
มีรถบัสออกจาก Takayama หลายสาย บางรอบต้องจอง
ส่วนรอบที่ไม่ต้องจอง เขาบอกว่าถึงรถเต็มก็จะออกคันใหม่ให้ ยังไงก็ได้ไป

ครั้งนี้ฟินตั้งแต่นั่งรถไปแล้ว เพราะรถจะขับผ่านภูเขาสวยๆ ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ
พอไปถึงหมู่บ้านก็ไม่ได้ทำอะไรมาก นอกจากเล่นหิมะ นอนบนหิมะ เดินฝ่าหิมะ
เพื่อนเราถ่ายเอ็มวี Walking in the winter wonderland ซึ่งถ่ายไปขำไปมาก
ครั้งนี้ไม่ได้สนใจเข้าไปในบ้านในเป็นพิเศษเลย และก็ไม่ได้ขึ้นไปดูวิวข้างบนด้วย
ครั้งก่อนเดินขึ้นไปได้ แต่ครั้งนี้จะต้องนั่งรถไป และรอบรถก็ไม่ทัน รถที่จะกลับสถานีด้วย














หลายคนบอกว่าชอบที่หมู่บ้านนี้มาก แต่เราเฉยๆ นะ
แต่ก็อยากลองพักแบบโฮมสเตย์ในหมู่บ้านนี้เลยเหมือนกัน